15 พฤศจิกายน 2567

MGC-ASIA ประกาศผลงานไตรมาส 3/2567 ทำรายได้ 4,530 ล้านบาท ธุรกิจบริการด้านการเงิน Alpha X พอร์ตสินเชื่อโต-รุก Wealth Lending เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG และ ZEEKR ผลตอบรับดี หนุนโตต่อเนื่อง

บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 มีรายได้รวม 4,530 ล้านบาท ส่วนกําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) ทำได้ 381 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มธุรกิจบริการด้านการเงินครบวงจร Alpha X พอร์ตสินเชื่อเติบโต เดินหน้าขยาย Wealth Lending เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง ขณะที่ XPENG ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะพรีเมียม-เทค และ ZEEKR ยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี่ ผลตอบรับดีต่อเนื่อง ส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า XPENG กว่า 1,000 และ ZEEKR กว่า 600 คัน ภายในไตรมาส 4 วางยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจ มุ่งส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับอย่างครอบคลุมทุกมิติ เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,530 ล้านบาท ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการลดลงของรายได้ในธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ใหม่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายเติบโต 5.4% (มกราคม-กันยายน) และมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับเพิ่มขึ้น ตอบรับเทศกาลท่องเที่ยว รถเช่าบูม ส่งผลให้กําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) ทำได้ 381 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านการเงิน บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีการเติบโต อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรอง (Pre-provision operating profit) เติบโตต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อใหม่ และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net interest margin) ยังเติบโตแข็งแกร่งจากกลยุทธ์การรุกตลาดสินเชื่อ Wealth Lending เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (High Net Worth) รวมถึงการมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนในการดำเนินงาน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGC-ASIA กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ MGC-ASIA คือการรุกขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ครบวงจร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทฯ ได้เสียงตอบรับที่ดีจากงาน XPENG X9 Exclusive Preview ที่ผ่านมา และจะมีการเปิดตัว XPENG X9 ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ อัลตราสมาร์ท คูเป้ เอ็มพีวี ที่งาน Thailand International Motor Expo 2024 ครั้งที่ 41 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ถึง 10 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี นอกจากนี้ ได้เดินหน้าขยายเครือข่ายศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า MGC-ASIA โดยได้เปิดโชว์รูมต้นแบบอัจฉริยะพร้อมศูนย์บริการครบวงจร XPENG สาขาหัวหมาก ซึ่งเป็นศูนย์บริการครบวงจร พร้อมด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจำนวน 12 ราย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุม และเปิดโชว์รูมยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี่ พร้อมศูนย์บริการครบวงจร ZEEKR หรือ ZEEKR HOUSE สาขาศรีนครินทร์ และวิภาวดี เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ พร้อมรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

โดยช่วงไตรมาส 4 เตรียมส่งมอบเรือยอตช์ AZIMUT มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบเสร็จสิ้นและรับรู้รายได้ ในไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะที่ MMS อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับคู่ค้าและมีการศึกษาลู่ทางการขยายศูนย์ซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยจัดให้มีการฝึกอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึง ยกระดับมาตรฐานการบริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ MGC-ASIA ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย MGC-ASIA ในฐานะผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ CITY AUTO GROUP ผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ในเวียดนาม เพื่อศึกษาโอกาสธุรกิจร่วมกัน ทั้งบริการรถใหม่ รถมือสอง รถเช่า บริการทางการเงิน และประกันภัย เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ และสร้างการเติบโตร่วมกัน ในไทยและเวียดนาม

“ทางบริษัทฯ กำลังศึกษานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อปรับโครงสร้างการบริหารงานและบริหารต้นทุน อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เรามั่นใจว่า MGC-ASIA จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยปัจจัยบวก จากการขยายตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ และสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า อย่างครอบคลุม” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว